"แอปไม่พร้อม?
วัคซีนไม่พอ?"
การบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลที่ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อทั้งเศรษฐกิจและชีวิตประชาชนอย่างมหาศาล
จากที่ผมลงพื้นที่มาตลอด
ได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนในเขตทุ่งครุเรื่องการระบาดของโควิด-19 และการฉีดวัคซีน
หลายคนบอกว่าอยากฉีด ถึงจะเป็นวัคซีนที่ไม่มีสิทธิเลือกก็ตาม
แต่ก็จำเป็นต้องฉีด
เพื่อลดอาการติดเชื้อรุนแรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นอย่างหนัก
ยิ่งตอนนี้ที่ทุ่งครุพบคลัสเตอร์ใหม่ (ข้อมูล ณ วันที่ 24 พ.ค. 64)
ความต้องการฉีดวัคซีนยิ่งเพิ่มขึ้น
แต่ปัญหาอยู่ตรงที่การต้องจองวัคซีนผ่านทางแอปฯและ
LINE
OA "หมอพร้อม"
ที่แม้ช่วงเดือนพ.ค.จะให้เฉพาะผู้สูงอายุเกิน 60 ปี และผู้ป่วย 7
กลุ่มโรคลงทะเบียนจองก่อน แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้สูงอายุหลายท่านใช้เทคโนโลยีไม่เป็น
แม้จะมีช่องทางอื่น อย่างการจองผ่านอสม.ก็ตาม แต่ก็ทำให้หลายท่านพลาดการจอง
หรือถึงจองได้ก็ยังคงมีปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนวัคซีนผิดพลาด(ที่หมอพร้อมออกมาบอกภายหลังว่าเป็นการทดลองระบบการแจ้งเตือน?)
การถูกเลื่อนวันฉีด การถูกยกเลิกวันจอง ฯลฯ
นอกจากปัญหา
"หมอพร้อม" ที่ไม่พร้อม อีกปัญหาคือวัคซีนไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ยิ่งการระบาดรุนแรงขึ้น คนยิ่งต้องการวัคซีนมากขึ้น
หากจะนับตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีน-19 ในไทย มีผู้ที่รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มเพียง
1-2% ของประชากรไทยทั้งหมดเท่านั้น ถือว่ายังเป็นจำนวนน้อยมาก
มาพูดถึงวัคซีนที่รัฐบาลนำเข้า อย่าง Sinovac
ที่จะถูกนำมาฉีดให้ประชาชนไทย ได้รับการรับรองจากอย.ไทย
แต่ประเทศในยุโรปกลับไม่อนุมัติให้ผู้ที่ฉีดวัคซีน Sinovac เข้าประเทศ
เพราะ WHO ยังไม่รับรอง ซึ่งในข้อนี้ รัฐบาลก็ยังไม่ได้ออกมาแจ้งอย่างตรงไปตรงมา
ว่าทำไมยังคงยืนยันที่จะสั่ง Sinovac มาฉีดให้ประชาชน
ในเมื่อยังไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
วัคซีนอีกหนึ่งตัวที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ
AstraZaneca
ที่วางแผนจะนำมาฉีดให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
แต่หลายโรงพยาบาลก็เลื่อนฉีดเข็มที่ 2 ออกไป เพราะไม่มีวัคซีน
โดยรัฐก็ยังคงไม่ให้ความกระจ่างถึงเหตุการณ์การเลื่อนฉีดวัคซีน AstraZaneca
แต่อย่างใด
นอกจากวัคซีนจากรัฐบาลไทยทั้ง 2
ชนิดข้างต้น รัฐบาลยังยอมไฟเขียวในนาทีจวนตัว ให้รพ.เอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือกได้
(แต่ยังต้องซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม) แน่นอนว่าหากจะฉีดกับทางรพ.เอกชน
ประชาชนจะต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง ซึ่งปัจจุบัน อย. ก็ได้ขึ้นทะเบียน วัคซีน mRNA-1273 ของ Moderna เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าวัคซีน Moderna
จะเข้าไทยได้ภายในเดือนต.ค. เป็นต้นไป
การบริหารจัดการการจองวัคซีนที่ไร้ประสิทธิภาพ
การขาดวัคซีนทางเลือก การกระจายวัคซีนล่าช้า ความไม่พร้อมต่างๆ เหล่านี้
สะท้อนถึงความล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้
รัฐบาลควรออกมาขอโทษและรับผิดชอบต่อการบริหารจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ
จนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาชน ยิ่งช้ามากเท่าไหร่ ยิ่งสูญเสียมากเท่านั้น
สูญเสียทั้งชีวิต เงินทอง ความหวัง ความมั่นใจ
จะต้องรอให้เสียหายอีกเท่าไหร่
ถึงจะยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง? ถ้าฝีมือไม่ถึง
ไม่มีฝีมือในการบริหารประเทศและแก้ปัญหา
ก็ควรลาออกแล้วปล่อยให้คนที่มีความสามารถมากกว่านี้มาบริหารแทน
#ไอซ์อาสา
#ทุ่งครุต้องดีกว่านี้
#พรรคเพื่อไทย
https://www.facebook.com/111067427367211/posts/280784487062170/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น