นายแพทย์นิธิพัฒน์ เจียรกุล
แพทย์โรงพยาบาลศิริราช โพสต์เฟซบุ๊ก ที่เพจนิธิพัฒน์ เจียรกุล เตือนเด็ก คนมีครรภ์
และคนชราว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่อาจได้รับการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดเดลต้า(อินเดีย)
ได้รวดเร็วและรุนแรงกว่าคนในกลุ่มเสี่ยงอื่น เนื่องจากสุ่มตรวจพบมีเชื้อในผู้ป่วยน่าจะเกิดครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดแล้ว
“จากข้อมูลจากการสุ่มตรวจเมื่อราวสิบวันก่อน
ในศิริราชพบสายพันธุ์เดลต้าประมาณ 30%
ถ้าถึงวันนี้น่าจะเกินครึ่งไปแล้ว
สัปดาห์นี้จะลองส่งตรวจในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงดูว่าจะพบคิดเป็นสัดส่วนเท่าไร
สายพันธุ์นี้นอกจากจะแพร่ได้ง่ายไปสู่ทั้งเด็ก คนท้อง และคนชรา ยังอาจจะเกิดปอดอักเสบได้เร็วและได้แรงกว่าสายพันธุ์เดิมๆ
ที่เราคุ้นเคย นี่เป็นตัวแปรหนึ่งที่ทำให้เรียกการระบาดช่วงนี้เป็นระลอกสี่
และเป็นตัวชี้ขาดหนึ่งในความยากง่ายของการควบคุมโรคภายหลังเริ่มใช้มาตรการต่างๆ
ที่เผยโฉมให้ชัดเจนวันนี้ คงต้องลุ้นกันตัวโก่งเหมือนบอลยูโรที่มาได้ครึ่งทางของรอบ
16 ทีมแล้ว
ในบรรดาผู้ป่วยทั้ง 7 รายที่ดูแลอยู่ตอนนี้
สองในเจ็ดน่าจะมาจากสายพันธุ์เจ้าปัญหา
วันนี้ย้ายผู้ป่วยเก่าได้สองรายและนำรายใหม่เข้ามาแทน
คาดว่าเจ้าตัวร้ายคงกลายเป็นขาใหญ่ของที่นี่แทนคือ 4 จาก
7 ราย ที่น่าสนใจคือผู้ป่วย 3 รายเป็นอาจารย์อาวุโสของผมเอง
ทุกท่านแม้อยู่ในวัยเกือบหรือเกิน 80 แล้ว
แต่ยังแข็งแรงดีและไม่มีโรคหรือภาวะเสี่ยงชัดเจน
ที่สำคัญคือทั้งหมดหาต้นตอคนนำเชื้อมาให้ได้ไม่ชัดเจน
แสดงถึงมีการลุกลามของเชื้อเข้าไปในชุมชนวงกว้าง
ซึ่งเป็นอีกสัญญาณบ่งชี้ของการระบาดระลอกสี่
ภาวนาให้เหล่าครูทุกท่านได้รับผลดีของการดูแลรักษาโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหรือเรื้อรัง
นี่ช่วยตอกย้ำอีกครั้งว่า วัคซีนที่กำลังจะได้มาในเดือนหน้า
จะต้องเร่งฉีดให้กับผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรังเป็นอันดับต้นๆ”
ภาพประกอบจาก https://news.liverpool.ac.uk/2017/09/13/hepatitis-delta-virus-africa-global-challenge/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น